สำหรับคนที่มีความฝันอยากจะเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมสักห้อง และกำลังวางแผนกู้ซื้อคอนโดอยู่แต่ไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจขั้นตอนในการกู้ซื้อคอนโด ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการวางแผนการผ่อนชำระอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ที่ฝันอยากมีคอนโดเป็นของตัวเองสามารถเป็นเจ้าของคอนโดได้อย่างมั่นคง
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบความพร้อมทางการเงิน (หัวใจสำคัญของการกู้ซื้อคอนโด)
ก่อนที่จะเริ่มมองหาคอนโดที่ถูกใจ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการสำรวจสุขภาพทางการเงินของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้
- ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ: ธนาคารมักจะอนุมัติวงเงินกู้ที่ยอดผ่อนชำระไม่เกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน ดังนั้น ควรคำนวณรายรับรายจ่ายในปัจจุบันเพื่อดูว่าคุณสามารถจัดสรรเงินสำหรับผ่อนคอนโดได้เท่าไหร่
- สร้างเครดิตที่ดี: ประวัติการชำระหนี้ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณมีหนี้สินอื่นๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ควรชำระให้ตรงเวลา หรือหากเป็นไปได้ ควรลดภาระหนี้สินเหล่านั้นลง
- รวบรวมเงินดาวน์: โดยทั่วไป ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงสุด 70-90% ของราคาประเมินคอนโด ดังนั้น คุณจะต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10-30% ของราคาคอนโด ยิ่งมีเงินดาวน์มากเท่าไหร่ ภาระการผ่อนชำระก็จะน้อยลง
- ค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ: อย่าลืมว่านอกเหนือจากเงินดาวน์และค่าผ่อนชำระ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียมให้พร้อม เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลางล่วงหน้า รวมถึงค่าตกแต่ง
ขั้นตอนที่ 2: ค้นหาและเลือกคอนโดที่ใช่
เมื่อพิจารณาภาระทางการเงินแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มต้นค้นหาคอนโดในงบประมาณที่คุณตั้งไว้ ซึ่งโดยส่วนมากควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
- ทำเลที่ตั้ง: เลือกทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้ที่ทำงาน สถานศึกษา หรือแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์
- ประเภทและขนาด: ตัดสินใจว่าต้องการคอนโดขนาดกี่ตารางเมตร มีกี่ห้องนอน ห้องน้ำ และต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างในโครงการ
- งบประมาณ: กำหนดงบประมาณสูงสุดที่สามารถจ่ายได้ และมองหาคอนโดที่อยู่ในช่วงราคานั้น
- ผู้พัฒนาโครงการ: ศึกษาชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาโครงการ รวมถึงประวัติการส่งมอบงาน
- เยี่ยมชมโครงการจริง: หากเป็นไปได้ ควรไปเยี่ยมชมโครงการจริงเพื่อดูบรรยากาศ สภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ขั้นตอนที่ 3: ยื่นเรื่องขอกู้ซื้อคอนโดกับธนาคาร
เมื่อตัดสินใจเลือกคอนโดได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยมีขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำดังนี้
- เตรียมเอกสาร: ธนาคารจะขอเอกสารส่วนบุคคล (บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน) เอกสารทางการเงิน (สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน) และเอกสารเกี่ยวกับคอนโด (สัญญาจะซื้อจะขาย สำเนาโฉนด)
- เปรียบเทียบข้อเสนอ: ติดต่อธนาคารหลายแห่งเพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข และโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
- ประเมินหลักทรัพย์: หลังจากยื่นเอกสาร ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินราคาคอนโดที่คุณต้องการซื้อ
- อนุมัติสินเชื่อ: หากเอกสารครบถ้วนและผ่านเกณฑ์การพิจารณา ธนาคารจะแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ
ขั้นตอนที่ 4: ทำสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าของคอนโดในฝันอย่างที่ตั้งใจไว้
- ทำสัญญาจะซื้อจะขาย: หากยังไม่ได้ทำ ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับผู้ขาย โดยระบุรายละเอียดราคา เงินดาวน์ และเงื่อนไขต่างๆ
- ทำสัญญาเงินกู้กับธนาคาร: เซ็นสัญญาเงินกู้กับธนาคาร โดยมีวงเงินและอัตราดอกเบี้ยตามที่ตกลง
- จดจำนองและโอนกรรมสิทธิ์: ไปยังสำนักงานที่ดินเพื่อทำการจดจำนองและโอนกรรมสิทธิ์คอนโด โดยคุณจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง
ขั้นตอนที่ 5: วางแผนการผ่อนชำระเพื่อไม่ให้เป็นหนี้นาน
หากต้องการกู้ซื้อคอนโดและไม่อยากเป็นหนี้นาน จำเป็นจะต้องบริหารจัดการเรื่องการผ่อนชำระให้เป็นระบบ เพราะหากวางแผนไม่ดี อาจทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนมาก โดยสามารถใช้วิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ได้
- โปะเพิ่มจากยอดผ่อนปกติ: หากมีรายได้พิเศษ หรือเงินเหลือในแต่ละเดือน ลองนำเงินมาโปะเพิ่มจากยอดผ่อนปกติ เพียงแค่ 1,000-2,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถลดระยะเวลาผ่อนและประหยัดดอกเบี้ยได้เป็นจำนวนมาก
- รีไฟแนนซ์: หลังจากผ่อนชำระไปได้ระยะหนึ่ง (โดยทั่วไป 3 ปี) ลองพิจารณารีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่น เพื่อหาอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญ
- บริหารจัดการหนี้สินอื่นๆ: หากมีหนี้สินอื่นๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ ควรเร่งชำระให้หมดก่อน หรืออย่างน้อยก็ไม่สร้างหนี้เพิ่ม เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับโปะค่าคอนโด
- สร้างรายได้เสริม: หากเป็นไปได้ ลองหางานเสริม หรือลงทุนในสิ่งที่สร้างผลตอบแทน เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและนำมาโปะค่าคอนโดให้หมดเร็วขึ้น
การกู้ซื้อคอนโดไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีการวางแผนที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น และบริหารจัดการการเงินอย่างรอบคอบ การเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป แต่ที่สำคัญคือยังจะต้องบริหารจัดการเรื่องการผ่อนชำระให้เป็นระบบ เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของคอนโดแบบไม่ต้องเป็นหนี้ในระยะยาว